กรมทางหลวง ชวนชมวิวรับลมหนาว ริมเส้นทางสายธรรมชาติ สัมผัสหมอกขาว – ชมพระอาทิตย์ยามเช้าเย็น พร้อมบริการแช่น้ำอุ่นคลายหนาวที่ หมวดทางหลวงแม่ลาว จังหวัด เชียงราย หมวดทางหลวงแม่ลาว เชียงราย – (30 ธ.ค. 2564) กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม ขานรับนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมร่วมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2564 ถึงต้นเดือนมกราคม 2565 ซึ่งเป็นเดือนที่อยู่ในช่วงฤดูหนาวและช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565
ขอเชิญชวนนักเดินทางท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ (New Normal)
เน้นการดูแลสุขภาพและความปลอดภัย สูดอากาศบริสุทธิ์ที่จุดชมวิวริมเส้นทางสายธรรมชาติสัมผัสหมอกหน้าหนาวยามเช้าชมแสงแรกของ พระอาทิตย์หรือจะชมความงามของพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น ซึ่งเป็นทิวทัศน์สวยงามหลายเส้นทางด้วยกัน ดังนี้
1. ทางหลวงหมายเลข 1093 (ตอนขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง) กม. ที่ 63+500 อยู่ในพื้นที่หน่วยบำรุงทางภูชี้ฟ้า แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้าที่ได้ชื่อว่าหลังคาแห่งสยามที่ประมาณ กม. ที่ 64+600 นอกจากนี้หน่วยบำรุงทางภูชี้ฟ้ายังมีพื้นที่กางเต็นท์ให้สัมผัสธรรมชาติและนั่งดูดาวยามค่ำคืนอีกด้วย
2. ทางหลวงหมายเลข 1009 (ตอนจอมทอง – ดอยอินทนนท์) กม. ที่ 40-41 อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงจอมทอง แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 1 ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปยัง พระมหาธาตุเจดีย์พระนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ รวมทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาและเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน และดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของแดนสยาม หากนักเดินทางต้องการพักเหนื่อยหรือกางเต็นท์สัมผัสบรรยากาศยอดดอยสามารถมาพักได้ที่หมวดทางหลวงจอมทอง ช่วง กม. ที่ 30+450 ซึ่งจะอยู่เลยจุดชมวิวประมาณ 10 กิโลเมตร
3. ทางหลวงหมายเลข 1095 (ตอนท่าไคร้ – แม่ฮ่องสอน) กม. ที่ 154+800 จุดชมวิวลุกข้าวหลามอยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงแม่ฮ่องสอน แขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน จุดชมวิวนี้เป็นที่พักระหว่างการเดินทางปางมะผ้า – แม่ฮ่องสอน
4. ทางหลวงหมายเลข 1095 (ตอนแม่นะ – ท่าไคร้) กม. ที่ 120+500 จุดชมวิวกิ่วลม อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงปางมะผ้า แขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน เป็นจุดชมวิวเช้าที่ให้ชมธรรมชาติแบบเทือกเขาสลับซับซ้อนอยู่ระหว่างเส้นทางปาย – ปางมะผ้า
5. ทางหลวงหมายเลข 108 (ตอนแม่สุริน – ปางหมู) กม. ที่ 337+025 จุดชมวิวผาบ่อง อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงแม่ฮ่องสอน แขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นที่พักระหว่างการเดินทางจากอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน – ขุนยวม
6. ทางหลวงหมายเลข 1226 (ตอนจ่าโบ่ – ปางคาม) กม. ที่ 3+150 จุดชมวิวบ้านจ่าโบ่ อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงปางมะผ้าแขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวย ๆ แบบ 360 องศา
7. ทางหลวงหมายเลข 2196 (ตอนนางั่ว – ทุ่งสมอ) กม. ที่ 23+600 ด้านขวาทาง อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงเขาค้อ แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปบนเขาค้อ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ ทล. มีพื้นที่กางเต็นท์ที่หมวดทางหลวงเขาค้อให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสบรรยากาศเมืองแห่งสายหมอก
8. ทางหลวงหมายเลข 1090 (ตอนห้วยน้ำริน – อุ้มผาง)
ช่วง กม. ที่ 87+935 – 88+135 อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงคีรีราษฎร์ แขวงทางหลวงตากที่ 2 ซึ่งเป็นจุดพักกึ่งกลางทางระหว่างทางจาก อำเภอแม่สอดไป อำเภออุ้มผาง โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1167 และเข้าทางหลวงหมายเลข 1288 เพื่อไปน้ำตกทีลอซู ซึ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย โดยทางหมวดฯ ได้มีบริการพื้นที่กางเต็นท์ให้บริการแก่นักเดินทางได้พักระหว่างทางด้วย
9. ทางหลวงหมายเลข 2222 (ตอนโขงเจียม – สะพือ) กม. ที่ 0+850 อยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงโขงเจียม แขวงทางหลวงอุบลราชธานีที่ 2 โดยพื้นที่จะอยู่ติดกับวัดถ้ำคูหาสวรรค์ และภายในบริเวณหมวดฯ จะมีหน้าผาให้ชมวิวและมองลงไปจะมองเห็นบรรยากาศแม่น้ำโขงและพื้นที่กางเต็นท์ให้บริการแก่นักเดินทางได้สัมผัสธรรมชาติยามค่ำคืนอีกด้วย
10. ทางหลวงหมายเลข 211 (ตอนศรีเชียงใหม่ – ห้วยเชียงดา) กม. ที่ 73+500 ด้านขวาทางซึ่งจุดชมวิวจะอยู่ในพื้นที่หมวดทางหลวงสังคม แขวงทางหลวงหนองคาย ซึ่งมีพื้นที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง นักเดินทางจะได้สัมผัสความสดชื่นและความสวยงามของธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขง หากมองไปจะเห็นทิวเขาที่ตั้งอยู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเส้นทางนี้ ทล. ได้จัดให้เป็นจุดพักคอยระหว่างการเดินทางไปยังสกายวอร์ค วัดผาตากเสื้อประมาณ 10 กิโลเมตร และสามารถเดินทางต่อไปยัง อำเภอปากชม และ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
11. ระหว่างการเดินทางหากผ่านมาทางหลวงหมายเลข 1 (ตอนพาน – ร่องขุ่น) ที่ กม. 896+845 – 897+158 ด้านขวาทางริมถนนพหลโยธิน ทล. โดยแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 หมวดทางหลวงแม่ลาว จะมีบ่อน้ำร้อนห้วยทรายขาวอยู่ริมถนนพลโยธินในพื้นที่ โดยจะมีห้องแช่ตัวให้บริการจำนวน 4 ห้อง อาคารแช่เท้าจำนวน 2 จุด จุดบริการนวดแผนไทย โดยจะไม่มีการเก็บค่าบริการใด ๆ ซึ่งเปิดให้บริการในวันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 16.00 น. โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดเวลาให้บริการ