เร่งตามหา น้องมาวิน หนุ่ม 18 จมน้ำ ขณะซ้อนเจ็ตสกี

เร่งตามหา น้องมาวิน หนุ่ม 18 จมน้ำ ขณะซ้อนเจ็ตสกี

เข้าสู่วันที่ 4 แล้ว เจ้าหน้าที่ยังคงไม่พบร่าง น้องมาวิน หนุ่ม 18 จมน้ำ ขณะซ้อนท้ายเจ็ตสกี กู้ภัยคาดวันนี้ร่างอาจลอยขึ้นมา เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งตามหา น้องมาวิน หรือ นายมาวิน นักท่องเที่ยว กทม. ตกน้ำขณะเล่นสกี กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ท้องที่หมู่ 5 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่เมื่อช่วงวันที่ 15.00 น. ของวันที่ 24 ต.ค.

ล่าสุด นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำ ภาค 7 

เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของเราได้ดำเนินการค้นหากันมาตลอดทั้งวัน จนกระทั่งเวลาเกือบเที่ยงคืนก็ยังไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องหยุดการค้นหาเพื่อความปลอดภัยของทีมงาน

ตลอดเวลาในการค้นหาทั้ง 3 วันที่ผ่านมาคุณเกศรา หรือเก๋ แม่ของน้องมาวิน ได้เฝ้าติดตามเพื่อรอรับร่างของน้องมาวิน อย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 4 แล้ว การค้นหายังคงดำเนินต่อไปจนกว่าจะเจอร่าง และเพื่อความอุ่นใจของผู้ปกครอง

“จากการที่ได้นำโดรนค้นหาใต้น้ำปรากฏว่าจุดท้องน้ำที่น้องมาวินจมลงไปนั้นไม่มีต้นไม้ใต้เขื่อนจึงทำให้ง่ายต่อการค้นหา แต่ปัญหาและอุปสรรคที่พบคือบริเวณดังกล่าวมีลำห้วยที่มีความลึกไต่ระดับลงไปเกือบ 100 เมตร ที่สำคัญคือใต้ท้องน้ำตั้งแต่ระดับ 50-80 เมตร มีตะกอนโคลนอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อพบจุดต้องสงสัยว่าร่างของน้องอาจจะถูกตะกอนโคลนกลบร่างเอาไว้ ก็ได้ใช้พัดลมจากโดรนเป่าออกแต่ยังไม่พบร่าง” นายเฉลิมพนธ์ กล่าว

ทั้งนี้คาดว่าร่างของน้องมาวินจมน้ำ อาจจะลอยขึ้นมาเพราะเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว

องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์แสดงความเสียใจและวิจารณ์มหาวิทยาลัยหลังไม่รับฟัง จนเป็นเหตุให้ นักศึกษา มธ. ชนท้ายรถเสียชีวิต องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อเหตุ นักศึกษา มธ รถชนท้ายสิบล้อเสียชีวิต 2 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา

ทางองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความเสียใจต่อเหตุนักศึกษาธรรมศาสตร์รถชนที่เกิดขึ้น พร้อมโจมตีมหาวิทยาลัยว่าหากยอมรับฟังเสียงนักศึกษา ก็คงไม่ต้องเกิดเรื่องเศร้าขึ้น โดยระบุว่า “จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ (27 ตุลาคม 2565) ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักศึกษาธรรมศาสตร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย

เรื่องดังกล่าวนี้จะไม่เกิดขึ้น หากทางมหาวิทยาลัยรับฟังเสียงของนักศึกษาในการผลักดันให้ขยายเวลาเปิดประตูเชียงราก 1 โดยอย่างน้อยให้รถจักรยานยนต์สามารถสัญจรได้ ซึ่งได้มีการร้องขอไปยังผู้บริหารมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนก่อให้เกิดความสูญเสียดังกล่าวนี้ขึ้น และไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่

อมธ. ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ขอส่งกำลังใจ และขอให้คำมั่นว่าเราจะร่วมผลักดันให้มีการขยายเวลาเปิดประตูเชียงราก 1 เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียขึ้นอีก”

ยื่นค้านประกัน เสี่ย ป. อุดรธานี หวั่นปล่อยคลิปเด็กว่อนเน็ต

เฮียเปี๊ยก และ ผู้ปกครองเหยื่อ ร่วมยื่นจดหมายค้าน ประกัน เสี่ย ป. อุดรธานี หวั่นไปยุ่งเหยิงกับพยานและหลักฐาน รวมถึงปล่อยคลิปเด็กว่อนเน็ต

เฮียเปี๊ยก หรือ นายภานุมาศ จิตรวศินกุล พร้อมด้วยพ่อของผู้เสียหายได้มายื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัวเสี่ย ป. อุดรธานี เสี่ยซื้อบริการทางเพศเด็กหญิงต่ำอายุ 18 ปี ถ่ายภาพโป๊เปลือยของเด็กเป็นจำนวนมากตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

เฮียเปี๊ยก เผยว่ากลัวว่าว่าจะไปยุ่งเหยิงกับหลักฐานและพยาน เพราะเป็นคนมีฐานะ และกว้างขวางในสังคม พร้อมเกรงว่าเสี่ย ป. จะรู้สึกโกรธแค้นและปล่อยคลิปที่ตนมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรืออาจจะอยู่ในระบบไอคลาวด์สู่สาธารณะชน

ด้านพ่อของผู้เสียหายกล่าวว่า ตนมีอาชีพรับซื้อของเก่า แม่ น.ส.นิดเสียชีวิตไปนานแล้ว และตนมีภรรยาใหม่ ตนมีลูก 2 คน น.ส.นิดเป็นลูกสาวคนเล็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ ทำงานเสิร์ฟอาหาร ลูกเป็นเด็กเชื่อฟังตนดี บอกตนว่าจะไปนอนบ้านเพื่อน ตนจึงอนุญาต และมารู้เรื่องเมื่อตำรวจมาที่บ้าน ว่าลูกสาวโดนเสี่ย ป. อุดร ไปถ่ายภาพและคลิปเปลือย ได้เงิน 600 บาท ลูกเกรงว่าภาพจะหลุดไปในโลกโซเชียล ตนรู้สึกตกใจมาก และเสียใจมาก จึงพาลูกมาแจ้งตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับเสี่ย ป.จนถึงที่สุด และมาคัดค้านการประกันตัว ฝากถึงผู้ปกครอง ให้ดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าปล่อยปะละเลย

ขณะส่วนตำรวจและสหวิชาชีพได้นำเด็กสาวทั้ง 6 คน มาสอบสวนปากคำ โดยแยกสอบสวนว่าเด็กแต่ละคนมาอยู่บ้านเสี่ย ป. ตั้งแต่เมื่อไหร่ พร้อมสอบถามถึงพฤติกรรมของ เสี่ย ป. เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ หากประชาชน หรือองค์กรใด พบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมแอบอ้างดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ล่าสุด “นัทตี้ Nutty’s Diary” โพสต์ข้อความผ่านไอจีอีกครั้ง วันนี้ (7 เม.ย.65) ยืนยันว่า ไม่ได้หายไปไหน และจะเริ่มติดต่อคืนเงินให้ผู้ที่ฝากเงินมาลงทุนในวันพรุ่งนี้ โดยจะติดต่อแบบตัวต่อตัว ยืนยันว่าทุกคนจะต้องได้เงินคืน โดยเนื้อหาในการออกมาชี้แจงล่าสุดของ ยูทูบเบอร์สาว นัทตี้ ระบุข้อความทั้งหมดไว้ ดังนี้

“ยังอยู่นะคะทุกคน ไม่ได้หนีไปไหนค่า การติดต่อกลับเคสบายเคสจะเริ่มติดต่อตั้งแต่พรุ่งนี้ 8 เมษายน 2565 เป็นต้นไป การติดต่อกลับเพื่อพูดคุยรีเช็คข้อมูล จะเสร็จสิ้นทั้งหมดภายใน 30 เมษายน 256”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป